“มรดก...วางแผน หรือ ไม่วางแผน?”

“มรดก...วางแผน หรือ ไม่วางแผน?”

สักวันหนึ่ง...สิ่งที่เรามีอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด ธุรกิจ หนี้สิน หุ้น ภาระและหน้าที่ที่ผูกพันธ์ตามสัญญาที่ได้ทำไว้ ฯลฯ ก็ต้องถูกส่งมอบให้กับครอบครัวหรือใครคนใดคนหนึ่งหลังจากที่นาฬิกาชีวิตของเราหยุดเดินแล้วแน่นอน ไม่ว่าเราจะได้วางแผนไว้หรือไม่

ผมขอสรุปสั้นๆให้ได้เห็นความแตกต่างของการส่งมอบทรัพย์สินแบบที่มีการวางแผนและไม่วางแผน

ไม่วางแผน

ทรัพย์สินหรือทรัพย์มรดกรวมถึงภาระหนี้สินจะถูกส่งมอบให้กับ “ทายาทโดยธรรม” ตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งมีทั้งหมด 6 ลำดับชั้น เริ่มตั้งแต่คนที่ใกล้ชิดที่สุดตามกฎหมายและค่อยๆห่างออกไป คู่สมรส บุตร และบิดามารดาเป็นลำดับจะได้เป็นลำดับแรกๆ พี่น้องได้เป็นลำดับต่อมา และไล่ไปจนถึง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา หากทายาทในลำดับชั้นแรกๆยังมีชีวิตอยู่ ทายาทชั้นรองลงไปก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกแน่นอน ส่วนใครก็ตามที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ตามกฎหมายนั้น บอกเลยว่า...โอกาสเป็น “ศูนย์” ครับ

วางแผน

เครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนส่งมอบทรัพย์สินที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดจะมี 2 ประเภท คือ

พินัยกรรม

“ผู้รับพินัยกรรม” จะเป็นใครก็ได้ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กันทางกฎหมายหรือไม่ก็ตาม ไม่จำเป็นต้องอยู่ในทายาทโดยธรรม 6 ลำดับชั้น ผู้จัดการมรดกจะเป็นผู้จัดการส่งมอบทรัพย์สินให้ผู้รับพินัยกรรมตามเจตนาของเจ้ามรดกที่ได้ระบุไว้ในพินัยกรรม

กรมธรรม์ประกันชีวิต

“ผู้รับประโยชน์” ซึ่งโดยมากจะเป็นคนในครอบครัวหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับชีวิตของผู้เอาประกัน แต่บางบริษัทประกันชีวิตได้เปิดโอกาสให้ “คู่รักเพศเดียวกัน” สามารถเป็นผู้รับประโยชน์ของกรมธรรม์ได้ ทรัพย์สินที่อยู่ในรูปของ “เงินสด” จะถูกส่งมอบให้ผู้รับประโยชน์ภายในเวลาอันรวดเร็วหลังจากที่เอกสารเรียกร้องสินไหมมรณะกรรมครบถ้วนและถูกส่งให้กับบริษัทประกันชีวิต ซึ่งโดยทั่วไปจะมีจำนวนมากกว่าเบี้ยประกันที่ได้จ่ายไป และได้รับการยกเว้นภาษีทุกประเภท

ทรัพย์สินและหนี้สินที่เรามีในวันนี้ สักวันจะต้องถูกส่งมอบให้กับใครบางคน แต่จะตรงกับที่เราต้องการหรือหรือไม่ จะเป็น “มรดก” หรือกลายเป็น “ปัญหา” ขึ้นอยู่กับเราจะจัดการอย่างไรในตอนนี้

พัชภัคกร สุรรัตน์ : Financial Advisor

Facebook : Financial สบาย สบาย