เรื่องการเงินที่ COVID-19 สอนเรา
เรื่องการเงินที่ COVID-19 สอนเรา
COVID-19 ได้ส่งผลกระทบกับผู้คนทั่วโลก จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากมายอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง คนตกงานมีจำนวนหลายล้านคน แต่...ถ้าเราตั้งสติและมองในอีกมุมหนึ่ง วิกฤตครั้งนี้ได้สอนเรื่องการเงินให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างเห็นภาพชัดเจน
เงินสดสำรองฉุกเฉิน
หลายคนได้ศึกษามานานว่า...ทุกคนต้องเตรียมเงินสดสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน แต่สำหรับบางอาชีพที่โอกาสในการหางานใหม่ยากก็อาจต้องเตรียมไว้ถึง 12 เดือน ก่อนหน้านี้เราคงมองภาพไม่ชัดเจนนักว่ามันจะได้ใช้เมื่อไหร่ จะต้องรอตกงานก่อนเหรอ? โอกาสแทบจะไม่มีเลยที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้หลายคนละเลยไม่ได้เตรียมเงินในส่วนนี้ไว้ ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตอย่างมากเมื่อพบเจอกับสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้
ประกันสุขภาพ
จริงอยู่ที่ภาครัฐจะมีสวัสดิการให้เป็นพิเศษสำหรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 แต่ใครจะรู้ว่าในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกหรือไม่ และรัฐบาลจะมีวิธีจัดการอย่างไร บางคนเมื่อได้รับการรักษาจนหายแต่ก็อาจจะยังมีผลต่อเนื่องด้านสุขภาพตามมา ทำให้ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเองหากต้องการใช้บริการในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าค่าใช้จ่ายประเภทนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดและไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลย ประกันสุขภาพเป็นทางเลือกที่ดีในการรับมือกับสถานการณ์นี้
บริหารหนี้สิน
ช่วงนี้ทุกคนคงเข้าใจดีถึงคำว่า “การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ” คนจำนวนมากต้องตกงาน พ่อค้าแม่ค้าขายของได้น้อยลง คงจะโทษใครไม่ได้เพราะนี่คือสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อรายได้ลดลงแต่ค่าผ่อนชำระหนี้สินซึ่งรายจ่ายประจำยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนซื้อสินค้า ค่าผ่อนชำระสินเชื่อส่วนบุคคล ยอดชำระบัตรเครดิต ฯลฯ ไม่ว่าจะมีการออกมาตรการมาช่วยเหลือลูกหนี้ แต่ก็บรรเทาภาระได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น การสร้างหนี้ควรทำเฉพาะเท่าที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น
บริหาร รายรับ-รายจ่าย
ปัญหาการเงินส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากรายรับ แต่เกิดจากรายจ่ายที่ไม่สมดุล เมื่อมีรายจ่ายที่มากเกินไปก็ส่งผลให้มีเงินเก็บน้อย หรืออาจทำให้เกิดหนี้สิน รายจ่ายหลายรายการไม่ได้เกิดจากความจำเป็น แต่เกิดจากความต้องการ หากใครเคยจดบันทึก รายรับ-รายจ่าย ของตัวเองมักจะพบว่ามีหลายครั้งที่เราซื้อสิ่งที่ไม่ได้มีความจำเป็นต่อการดำเนินขีวิต และสินค้าหลายอย่างที่เคยซื้อมาไม่ได้นำออกมาใช้เลยก็มี ลองบริหารและจัดการใหม่ให้ดีแล้วจะพบว่ามีเงินเหลือเยอะขึ้นจริงๆ
ควรมีรายได้จากหลายช่องทาง
หลายคนเข้าใจแต่ไม่เคยจริงจัง สิ่งที่ผู้ที่มีรายได้มาจากช่องทางเดียวควรทำทุกวันคือ...สวดมนต์ภาวนาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เพราะหากสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงและบังเอิญมาส่งผลกระทบกับอาชีพของเรา เหมือนที่หลายคนกำลังเจออยู่ตอนนี้ รับรองว่ายิ้มไม่ออกแน่นอน การที่เรามีรายได้จากหลายแหล่งเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี โอกาสที่จะเกิดวิกฤตกับรายได้จะน้อยกว่าคนที่มีรายได้จากช่องทางเดียว
Passive Income เป็นสิ่งจำเป็น
คนที่สบายที่สุดและไม่ค่อยมีปัญหาในการขีวิตช่วงที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้าน คือ คนที่มี Passive Income คนกลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานเหมือนคนอื่น แต่ยังมีรายรับเข้ามาไม่ขาดมือ รายได้ประเภทนี้มักจะมาจากสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ เช่น กองทุนหรือหุ้นปันผล ค่าเช่า ฯลฯ เมื่อมีเงินส่วนที่เกินจากค่าใช้จ่าย ควรนำบางส่วนมาลงทุนสร้างสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน เพื่อทำให้เงินงอกเงยและสร้างรายได้อีกช่องทางทางหนึ่งไว้ด้วย
เรื่องการเงินหลายเรื่องที่เราได้ศึกษามาได้ปรากฎเป็นภาพให้ทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจน และเป็นอุทาหรณ์ให้เราได้ตระหนักที่จะวางแผนและจัดการอย่างจริงจังเสียที ถึงแม้ต่อไปอาจไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ชีวิตและความมั่นคงทางการเงินจะดีขึ้นแน่นอน
พัชภัคกร สุรรัตน์ FChFP : Financial Advisor
Facebook : www.facebook.com/financial.sabai
Blockdit : www.blockdit.com/financial.sabai
ยังไม่มีความคิดเห็น คุณเป็นคนแรกที่แสดงความเห็น